Scroll Top

มลภาวะทางอากาศ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่คิด

ปัญหามลภาวะทางอากาศ ที่เกิดจากขยะในปัจจุบัน

ในยุคปัจจุบัน “มลภาวะทางอากาศ” กลายเป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงและทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีหลากหลายสาเหตุที่ก่อให้เกิดสถานการณ์นี้ หนึ่งในนั้นที่หลายคนอาจมองข้ามคือ “ขยะ” โดยเฉพาะขยะจากครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นรบกวนเท่านั้น แต่ยังสามารถปล่อยสารพิษและมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้ปัญหามลภาวะทางอากาศยิ่งเลวร้ายลงอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าหลายภาคส่วนจะพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากยานพาหนะและโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงมีการสนับสนุนและรณรงค์ให้มีการนำเศษขยะจากโรงงานไปขายยังโรงงานรับซื้อขยะรีไซเคิล แต่การจัดการขยะอย่างไม่เหมาะสมก็ยังเป็นสาเหตุหลักที่กระตุ้นการเกิดมลพิษในอากาศโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะการเผาขยะกลางแจ้ง การฝังกลบที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือแม้แต่ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ปล่อยสารเคมีอันตรายอย่างตะกั่ว แคดเมียม หรือปรอท ล้วนส่งผลต่อคุณภาพอากาศทั้งสิ้น 

สาเหตุของมลภาวะทางอากาศ มาจากอะไรได้บ้าง

สาเหตุมลภาวะทางอากาศมีที่มาหลากหลายด้าน ทั้งที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์โดยตรงและโดยอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากระบบเศรษฐกิจแบบอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตอย่างต่อเนื่อง และการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนที่ขาดความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยสามารถจำแนกออกเป็นหมวดหมู่หลัก ๆ ได้ดังนี้

  1. ขยะและการจัดการขยะที่ไม่เหมาะสม

หลายครั้งที่ขยะจากครัวเรือน สำนักงาน หรือภาคธุรกิจถูกทิ้งโดยไม่ผ่านการคัดแยก ขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหารเมื่อเน่าเสียจะก่อให้เกิดก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพสูงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า ส่วนขยะพลาสติกและโฟม หากถูกเผาทำลายด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องจะปล่อยสารไดออกซินและฟูแรน ซึ่งเป็นสารพิษที่สามารถฟุ้งกระจายในอากาศและเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย

  1. การเผาขยะกลางแจ้ง

การเผาขยะในที่โล่งเป็นพฤติกรรมที่ยังพบเห็นได้บ่อยในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในชุมชนชนบท หรือพื้นที่ที่ระบบจัดเก็บขยะของเทศบาลยังไม่ครอบคลุม ซึ่งการเผาขยะเช่นนี้นอกจากจะก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นและควันดำที่รบกวนประชาชนในบริเวณใกล้เคียงแล้ว ยังปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก เช่น PM2.5 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า ทำให้สามารถแทรกซึมเข้าสู่ถุงลมในปอดและเข้าสู่กระแสเลือดได้ ส่งผลร้ายต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และแม้กระทั่งโรคหัวใจ

  1. อุตสาหกรรมและโรงงานผลิต

ภาคอุตสาหกรรมถือเป็นต้นเหตุสำคัญของ มลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะโรงงานที่มีการใช้วัตถุดิบเคมีในการผลิต เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมโลหะ หรืออุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งบางแห่งยังคงใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัย ไม่สามารถกรองหรือบำบัดก๊าซพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ มลพิษที่ปล่อยออกมาจากปล่องควันของโรงงาน เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์ และฝุ่นละเอียดเหล่านี้ เมื่อสะสมในอากาศจำนวนมาก จะทำให้เกิด “หมอกควันพิษ” หรือที่เรียกกันว่า “Smog” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบหายใจของมนุษย์ และยังมีผลต่อสัตว์ป่าและพืชพันธุ์ในระบบนิเวศอีกด้วย

  1. ยานพาหนะและการจราจรหนาแน่น

การขยายตัวของเมืองและจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การเผาไหม้เชื้อเพลิงจากเครื่องยนต์กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักของ ปัญหามลภาวะทางอากาศ ยิ่งในชั่วโมงเร่งด่วนหรือพื้นที่ที่มีการจราจรติดขัด การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) และฝุ่นละอองต่าง ๆ จึงมีปริมาณสูงกว่าปกติอย่างมาก แม้ว่ายานพาหนะไม่ได้ผลิตขยะในรูปแบบกายภาพเหมือนกับภาคอุตสาหกรรมหรือครัวเรือน แต่กระบวนการผลิตและบำรุงรักษารถยนต์ รวมถึงการกำจัดชิ้นส่วนเครื่องยนต์หรือแบตเตอรี่เก่าก็เป็นแหล่งกำเนิดขยะเคมีและโลหะหนักที่อาจกระทบต่ออากาศได้ในระยะยาว

การแก้ปัญหามลภาวะทางอากาศ ด้วยการจัดการเศษขยะจากอุตสาหกรรม

เพื่อให้การจัดการมลภาวะทางอากาศมีประสิทธิภาพ หนึ่งในแนวทางสำคัญคือการควบคุมต้นเหตุอย่างขยะอุตสาหกรรม ซึ่งมีความซับซ้อนและต้องใช้ระบบจัดการเฉพาะทาง โดยสามารถดำเนินการได้หลายแนวทาง ดังนี้

  1. แยกประเภทขยะตั้งแต่ต้นทาง

การแยกขยะตั้งแต่จุดกำเนิด ช่วยให้สามารถนำขยะไปจัดการอย่างถูกวิธี ลดการปนเปื้อน ลดโอกาสที่ขยะอันตรายจะปล่อยสารพิษสู่อากาศ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดกระบวนการรีไซเคิลที่ยั่งยืน

  1. ส่งเสริมการรีไซเคิลและใช้ทรัพยากรซ้ำ

เศษขยะจากอุตสาหกรรมหลายประเภทสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น โลหะ พลาสติก หรือกระดาษ โดยการใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลขั้นสูง จะช่วยลดการปล่อยก๊าซพิษจากการเผาทำลายได้อย่างชัดเจน และยังช่วยลดต้นทุนในการจัดการขยะอีกด้วย

  1. ใช้เทคโนโลยีจัดการขยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่ช่วยจัดการขยะโดยไม่สร้างมลภาวะทางอากาศ เช่น ระบบเตาเผาขยะที่มีเครื่องกรองก๊าซพิษ หรือกระบวนการบำบัดของเสียแบบชีวภาพ (Biological Treatment) ซึ่งเน้นการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์โดยไม่ปล่อยสารพิษ

  1. ออกกฎหมายควบคุมและบังคับใช้อย่างจริงจัง

ภาครัฐควรมีบทบาทในการควบคุมและตรวจสอบการจัดการขยะของโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด หากพบว่ามีการปล่อยของเสียที่ก่อให้เกิดมลพิษ ควรมีบทลงโทษที่ชัดเจนและรุนแรงพอจะป้องปรามพฤติกรรมไม่เหมาะสม

  1. การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน

แม้ขยะอุตสาหกรรมจะเป็นหน้าที่ของภาคธุรกิจ แต่ประชาชนเองก็สามารถมีส่วนร่วมในการลดมลภาวะทางอากาศได้ เช่น การลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว การเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่มีแนวทางจัดการของเสียอย่างยั่งยืน หรือการแยกขยะในบ้านอย่างถูกต้อง

สรุป

จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า มลภาวะทางอากาศ ไม่ได้เกิดจากแค่การควันจากรถยนต์หรือโรงงานเท่านั้น แต่ขยะก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปัญหานี้รุนแรงขึ้นโดยที่หลายคนอาจไม่ทันสังเกต ไม่ว่าจะเป็นขยะครัวเรือนที่หมักหมม ขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกทิ้งอย่างไม่เหมาะสม หรือแม้แต่ขยะอุตสาหกรรมที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการจัดการอย่างถูกต้อง ล้วนก่อให้เกิดปัญหามลภาวะทางอากาศทั้งสิ้น โดยสาเหตุมลภาวะทางอากาศส่วนใหญ่มักมาจากพฤติกรรมของมนุษย์ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ดังนั้นการแก้ไขจึงควรเริ่มจากจุดเล็ก ๆ เช่น การแยกขยะ การลดการใช้พลาสติก และการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนอกจากจะช่วยลดมลพิษในอากาศได้แล้ว ยังช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและลดภาระของโลกในระยะยาวสุดท้ายนี้ การแก้ปัญหาในระดับนโยบายย่อมเป็นสิ่งจำเป็น แต่ความเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ปัญหามลภาวะทางอากาศและลงมือทำอย่างจริงจังในชีวิตประจำวันของตนเอง ขอแนะนำบริษัทรับซื้อขยะรีไซเคิล EMI รับซื้อขยะรีไซเคิลทุกประเภททั้งพลาสติก อิเล็กทรอนิกส์ และอีกมากมาย

โพสต์ล่าสุด
Clear Filters